ตอนที่ ๑ จากเมืองกรุงสู่ทุ่งกว้างที่มา : หนังสือ ตราไว้ในดวงจิต บันทึกเรื่องราวอาศรมวงศ์สนิทยุคบุกเบิก เขียนโดย ศิริพร โชติชัชวาลย์กุล |
เดือนเมษายน ปี พ.ศ.๒๕๒๗ ลุงสมชายกับป้าปอน ย้ายออกจากกรุงเทพมหานคร ไปอยู่ที่ชนบทแห่งหนึ่งในเขตตำบลองครักษ์ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ที่อยู่ใหม่ของเราอยู่ในทำเลที่สวยงาม เป็นมุมที่ลำคลองสองสายมาบรรจบกัน คือคลองชลประทานหมายเลข ๑๕ กับ๒๙ ที่ดินที่เราจะมาตั้งหลักแหล่งทำมาหากินนี้มีเนื้อที่ ๓๔ไร่ครึ่ง เป็นกรรมสิทธิ์ของมูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีปซึ่งได้รับบริจาคจาก ม.ร.ว.สายสวัสดี สวัสดิวัตน์ ม.ร.ว.สายสวัสดี หรือที่ท่านอนุญาตให้เราเรียกท่านอย่างคุ้นเคยว่า “พี่หน่อย” ได้รับที่ดินผืนนี้เป็นมรดกตกทอดมาทางสายสกุลสนิทวงศ์ บรรพบุรุษของท่าน ที่อยู่ของเราจึงได้รับชื่อเรียกขานอย่างไพเราะว่าอาศรมวงศ์สนิท เพื่อระลึกถึงสกุลของท่านเจ้าของที่ดิน ชื่อนี้ทางมูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีปโดยอาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ซึ่งรู้จักกันดีในนาม ส.ศิวรักษ์ และพี่หน่อยร่วมกันตั้งขึ้นตามพระนามหม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท (ท่านชิ้น) บิดาของพี่หน่อย และเป็นพระเชษฐาของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีนาถในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ และอาศรมหมายถึงที่อยู่สำหรับผู้ที่ต้องการมีวิถีชีวิตที่สงบเรียบง่าย เรามาดูที่ดินผืนนี้ครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๒๗ เราติดใจลำคลองที่โอบสองด้านของผืนดิน และดูจะเป็นสิ่งเดียวที่ดึงดูดใจเราในเวลานั้น เพราะเราเชื่อว่าน้ำเป็นความเย็น และเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ หลังจากมาดูครั้งแรกแล้วเราก็มาอีกสองสามครั้ง ดีใจที่เพื่อนสนิทที่สุดของป้าปอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ชื่อ “ลุงเฉ่า” กับ “ป้าแมว” สองสามีภรรยาก็มีฟาร์มอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าใดนัก คืออยู่ที่บริเวณคลองหมายเลข ๑๖ ห่างจากที่นี่ประมาณสิบกว่ากิโลเมตร สมัยสาวๆ ช่วงที่ยังรับราชการป้าปอนก็เคยมาช่วยลุงเฉ่าทำฟาร์มเห็ด กุ้ง ปลา เป็นครั้งคราวในวันหยุดสุดสัปดาห์ เป็นการฝึกหัดงานที่ตัวเองชอบ ซึ่งขณะนั้นก็ยังไม่คิดว่าอนาคตจะได้มาเป็นเกษตรกรเต็มตัว |